Top 10 เมนูอาหารในคาเฟ่ Cafe Menu

Top 10 เมนูอาหาร เครื่องดื่ม ในคาเฟ่ที่ควรลอง

Top 10 เมนูอาหารในคาเฟ่ มีความหลากหลายทั้งในเรื่องของรสชาติและวิธีการทำ Cafe Menu ไม่ว่าคุณจะเป็นคนชอบของหวานหรือเครื่องดื่มร้อน ทุกเมนูจะมีเสน่ห์ที่น่าติดใจ เรามาดูกันว่ามีเมนูอะไรบ้างที่คุณต้องลองเมื่อมาเยือน คาเฟ่ เมนูอาหารในคาเฟ่นั้นมีความหลากหลายและน่าสนใจมาก ไม่ว่าคุณจะชอบเครื่องดื่มร้อน หรือของหวานอร่อย หรือแม้กระทั่งอาหารจานหลัก เรามีทุกสิ่งที่คุณต้องการ มาสัมผัสประสบการณ์ คาเฟ่เมนูอาหาร ที่น่าตื่นเต้นและอร่อยที่สุดที่คุณไม่ควรพลาด

เมนูที่ 1 คาปูชิโน ความอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์

คาปูชิโน (Cappuccino) เป็นเครื่องดื่มที่เป็นเอกลักษณ์ของคาเฟ่หลายแห่ง ด้วยกลิ่นหอมของ กาแฟ ที่ถูกต้มพร้อมกับนมสด และครีมที่ออกแบบเป็นรูปร่างของศิลปะ เมนูนี้เป็นที่โปรดของลูกค้าที่รักในความเป็นเอกลักษณ์และรสชาติที่ไม่เหมือนใคร เครื่องดื่มที่น่าลิ้มรสและเหมาะแก่การพักผ่อนในบรรยากาศคาเฟ่

วิธีการทำเครื่องดื่มคาปูชิโน

  • ชงกาแฟเอสเปรสโซลงในถ้วย
  • เตรียมนมสดแช่เย็นจัด ใส่ลงในโถตีฟองนม
  • ตีนมสดจนร้อนและฟู โดยใช้อุณหภูมิประมาณ 65-70 องศาเซลเซียส
  • เทฟองนมลงในถ้วยกาแฟเอสเปรสโซ
  • โรยหน้าด้วยผงโกโก้

ส่วนประกอบกาแฟคาปูชิโน

  • กาแฟเอสเปรสโซ 2 ช็อต (ประมาณ 60 มิลลิลิตร)
  • นมสด 120 มิลลิลิตร
  • ฟองนม
  • ผงโกโก้ (สำหรับโรย)

เมนูที่ 2 ซันนี่ไข่มุก การผสมผสานของรสชาติที่สุดพิเศษ

ซันนี่ไข่มุก เป็นเครื่องดื่มที่มีการผสมผสานของ ชานมไข่มุก ที่นุ่มนวล เมนูนี้เป็นที่รู้จักในวงกว้างและเป็นที่ชื่นชอบของคนทุกวัย เมนูคาเฟ่ ที่คุณไม่ควรพลาดหากคุณชื่นชอบรสชาติที่หวานมันส์ๆ

วิธีการทำซันนี่ไข่มุก

  • ผสมนมสด ครีมข้น และน้ำตาลทรายในหม้อ ตั้งไฟปานกลาง คนจนน้ำตาลละลาย
  • ผสมไข่แดงและน้ำเปล่าเข้าด้วยกัน คนให้เข้ากัน
  • เทส่วนผสมไข่แดงลงในหม้อนม คนตลอดเวลาจนส่วนผสมข้นขึ้น
  • ยกออกจากเตา พักไว้ให้เย็น
  • ตีไข่ขาวจนขึ้นฟู ค่อยๆ ใส่ส่วนผสมนมลงในไข่ขาว ตีให้เข้ากัน
  • ตักใส่แก้ว ราดด้วยครีมเทียม นมข้นหวาน น้ำตาลไอซิ่ง งาดำ และถั่วลิสง
  • ตกแต่งด้วยไข่มุกต้มสุก

ส่วนประกอบชาซันนี่ไข่มุก

  • นมสด 3 ถ้วย
  • ครีมข้น 1 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • ไข่แดง 4 ฟอง
  • น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย
  • ไข่ขาว 2 ฟอง
  • ไข่มุกต้มสุก
  • ครีมเทียม
  • นมข้นหวาน
  • น้ำตาลไอซิ่ง
  • งาดำ
  • ถั่วลิสง

เมนูที่ 3 แฮมเบอร์เกอร์บอล ความอร่อยแบบคลาสสิก

แฮมเบอร์เกอร์บอล เป็นเมนูที่เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย เนื้อเนียนๆ และนุ่มละเอียดของเนื้อบอลแช่แข็ง รวมกับน้ำสลัดสดๆ และซอสเทอริยากิ จะทำให้คุณหลงใหลในรสชาติอันเข้มข้น อิ่มอร่อยด้วยความคลาสสิกของแฮมเบอร์เกอร์บอลที่นุ่มนวลและอร่อย

วิธีการทำแฮมเบอร์เกอร์บอล

  • เปิดเตาอบที่ 375 องศาฟาเรนไฮต์ (190 องศาเซลเซียส)
  • ในชามขนาดใหญ่ ผสมเนื้อบด ขนมปังแครกเกอร์ป่น มัสตาร์ด ซอส Worcestershire เกลือ และพริกไทย
  • ใช้ส้อมบดส่วนผสมให้เข้ากัน
  • แบ่งส่วนผสมออกเป็น 6 ส่วนเท่าๆ กัน
  • บีบส่วนผสมแต่ละส่วนให้เป็นก้อนกลม
  • วางก้อนเนื้อลงบนถาดอบที่รองด้วยกระดาษรองอบ
  • อบเป็นเวลา 15-20 นาที หรือจนกว่าอุณหภูมิภายในจะถึง 160 องศาฟาเรนไฮต์ (71 องศาเซลเซียส)
  • ปล่อยให้แฮมเบอร์เกอร์เย็นลงเล็กน้อยก่อนที่จะเสิร์ฟ

ส่วนประกอบเมนูแฮมเบอร์เกอร์บอล

  • 1 ปอนด์เนื้อบด 80/20
  • 1/4 ถ้วยขนมปังแครกเกอร์ป่น
  • 1 ช้อนโต๊ะมัสตาร์ด
  • 1 ช้อนโต๊ะซอส Worcestershire
  • 1 ช้อนชาเกลือ
  • 1/2 ช้อนชาพริกไทยดำ

เมนูที่ 4 ขนมปังอบไส้กรอบ มีความกรอบ อร่อย อย่างลงตัว

ขนมปังอบไส้กรอบเป็นเมนูที่ทุกคนต้องลอง ความกรอบของขนมปังที่อบและความอร่อยของไส้ที่หอมเป็นเอกลักษณ์ เป็นเลือกที่เหมาะสำหรับทุกโอกาส เมนูที่เหมาะแก่การรับประทานเป็นอาหารว่างหรือเลือกมาเป็นขนมเช้า

วิธีการทำขนมปังอบไส้กรอบ

ทำแป้งโดว์

  1. ใส่แป้งสาลี น้ำตาลทราย เกลือ และยีสต์ลงในชามผสม
  2. ตีให้เข้ากัน
  3. ใส่นมสดอุ่น น้ำมันพืช และไข่ไก่ลงไป
  4. ตีให้เข้ากันจนแป้งเป็นก้อน
  5. นำเข้านวดบนโต๊ะที่โรยแป้งนวดจนแป้งเนียนนุ่มไม่ติดมือ
  6. พักแป้งโดว์ไว้ในชามทาเนยบางๆ ปิดฝาไว้ ทิ้งไว้ให้ขึ้นเป็นเวลา 1 ชั่วโมง หรือจนแป้งขึ้นเป็นสองเท่า

เตรียมไส้กรอบ

  • ทำไส้กรอบตามชอบ เช่น ไส้สับปะรด ไส้สับปะรดกวน ไส้ถั่วลิสง ไส้ถั่วแดง ไส้ถั่วดำ ไส้ชาเขียว เป็นต้น

ปั้นขนมปัง

  1. แบ่งแป้งโดว์ออกเป็นก้อนกลมๆ เท่าๆ กัน
  2. คลึงแป้งโดว์ให้เป็นแผ่นบาง
  3. วางไส้กรอบลงไปบนแผ่นแป้ง
  4. ม้วนแป้งเข้าหากันจนเป็นก้อนกลม
  5. พักแป้งก้อนกลมไว้ในถาดอบที่โรยแป้งนวดจนแป้งขึ้นเป็นสองเท่า

อบขนมปัง

  1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส
  2. ทาไข่ไก่บนขนมปัง
  3. อบขนมปังเป็นเวลา 20-25 นาที หรือจนขนมปังสุก

ส่วนประกอบเมนูขนมปังอบไส้กรอบ

  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ถ้วยตวง
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • ยีสต์ 1 ช้อนชา
  • นมสดอุ่น 1 ถ้วยตวง
  • น้ำมันพืช 1/4 ถ้วยตวง
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • ไส้กรอบตามชอบ

เมนูที่ 5 แครมบรูเล ความหอมหวานที่อร่อยทุกจิตใจ

แครมบรูเลเป็นเมนูที่มีความหอมหวานที่สดชื่น และรสชาติครีมที่คุณจะต้องตามหาอีกแน่นอน ความเป็นเอกลักษณ์ของเมนูนี้คือการใช้ผลไม้สดเป็นส่วนประกอบ เมนูคาเฟ่ที่น่าตื่นเต้นในทุกการรับประทาน ด้วยความหอมหวานและรสชาติที่เข้มข้น

วิธีการทำขนมแครมบรูเล

  • เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส
  • ใส่นมสด วิปปิ้งครีม และกลิ่นวานิลลาลงในหม้อ ตั้งไฟอ่อน คนให้เข้ากันจนเดือดเล็กน้อย
  • ตีไข่แดงกับน้ำตาลทรายให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย
  • ค่อยๆ เทนมอุ่นลงในไข่แดงทีละน้อย คนให้เข้ากัน
  • กรองส่วนผสมคัสตาร์ดลงในถ้วยทนความร้อน
  • เทน้ำลงในถาดรองอบให้สูงประมาณ 1 นิ้ว
  • ใส่ถ้วยคัสตาร์ดลงบนถาดรองอบ
  • นำเข้าเตาอบอบเป็นเวลา 45-50 นาที หรือจนคัสตาร์ดสุก
  • นำแครมบรูเลออกจากเตาอบ พักไว้จนเย็นสนิท
  • โรยน้ำตาลทรายบางๆ บนหน้าคัสตาร์ด
  • ใช้ไฟแช็กหรือเตาแก๊สเผาน้ำตาลทรายจนเป็นคาราเมล
  • เสิร์ฟแครมบรูเลเย็นๆ

ส่วนประกอบเมนูแครมบรูเล

  • นมสด 250 มิลลิลิตร
  • วิปปิ้งครีม 100 มิลลิลิตร
  • ไข่แดง 3 ฟอง
  • น้ำตาลทราย 50 กรัม
  • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  • น้ำตาลทรายสำหรับโรยหน้า

เมนูที่ 6 พานิโน ความสดชื่นที่มาพร้อมกับสีสัน

พานิโนเป็นเครื่องดื่มที่น่าสัมผัสด้วยความสดชื่นของผลไม้ และสีสันที่สวยงาม น้ำผลไม้ผสมผสานกับน้ำอัดลมที่คุณรับรองว่าจะทำให้คุณรู้สึกสดชื่นทันที เมนูที่เหมาะสำหรับการรับประทานในวันที่อากาศร้อน ที่จะทำให้คุณรู้สึกสดชื่นทุกเส้นทาง

วิธีการทำเครื่องดื่มพานิโน

  • ผสมน้ำผลไม้สด
  • เติมน้ำอัดลม

ส่วนประกอบเมนูเครื่องดื่มพานิโน

  • ผลไม้สด
  • น้ำอัดลม

เมนูที่ 7 โทสต์ เมนูอาหารเช้ายอดนิยม

โทสต์ (Toast) เป็นเมนูอาหารเช้ายอดนิยม ขนมปังปิ้งกรอบนอกนุ่มใน ราดด้วยเนย แยม หรือผลไม้ตามชอบ เข้ากันได้อย่างลงตัว โทสต์ เป็นเมนูที่หารับประทานได้ง่ายทั้งที่ร้านคาเฟ่และร้านอาหารทั่วไป

วิธีการทำเมนูโทสต์

  • ตัดขอบขนมปังออกให้เรียบ
  • ทาเนยบนขนมปังทั้ง 2 ด้าน
  • นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 5-10 นาที หรือจนขนมปังเหลืองกรอบ
  • นำขนมปังออกจากเตาอบ ราดด้วยน้ำผึ้ง
  • ตกแต่งด้วยผลไม้สดตามชอบ

ส่วนประกอบเมนูโทสต์

  • ขนมปังปอนด์หรือขนมปังชนิดอื่น 1 แผ่น
  • เนยสด 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
  • ผลไม้สดตามชอบ (สตรอว์เบอร์รี กีวี แอปเปิ้ล ฯลฯ)

เมนูที่ 8 เฟรนช์ฟรายส์ อาหารทานเล่น

เฟรนช์ฟรายส์ เป็นเมนูอาหารทานเล่นยอดนิยม แป้งทอดกรอบ ๆ ราดด้วยซอสมะเขือเทศ หรือซอสทาทาร์ เข้ากันได้อย่างลงตัว เฟรนช์ฟรายส์ เป็นเมนูที่หารับประทานได้ง่ายทั้งที่ร้านคาเฟ่และร้านอาหารทั่วไป

วิธีการทำเมนูเฟรนช์ฟรายส์

  • ล้างมันฝรั่งให้สะอาด ลอกเปลือกออก แล้วหั่นเป็นแท่งๆ ขนาดเท่าๆกัน ประมาณ 1/4 นิ้ว
  • แช่มันฝรั่งในน้ำเย็นประมาณ 30 นาที เพื่อลดความแป้ง
  • สะเด็ดน้ำมันฝรั่งให้แห้ง แล้วซับด้วยกระดาษทิชชู่
  • ตั้งกระทะหรือหม้อทอดน้ำมันบนไฟกลาง ใส่น้ำมันลงไปจนท่วม รอให้น้ำมันร้อนถึง 135 องศาเซลเซียส
  • เมื่อน้ำมันร้อนได้ที่แล้ว ใส่มันฝรั่งลงไปทอด ประมาณ 5 นาที คอยคนเป็นครั้งคราว เพื่อให้สุกทั่วถึง
  • ยกขึ้นจากกระทะ แล้วสะเด็ดน้ำมันออก
  • ใส่เกลือตามชอบ แล้วเสิร์ฟ

ส่วนประกอบในการทำเฟรนช์ฟรายส์

  • มันฝรั่ง 2 หัว
  • เกลือ
  • น้ำมันสำหรับทอด

เมนูที่ 9 วาฟเฟิล แป้งวาฟเฟิลกรอบนอกนุ่มใน

วาฟเฟิล เป็นเมนูอาหารเช้ายอดนิยม แป้งวาฟเฟิล กรอบนอกนุ่มใน ราดด้วยน้ำผึ้ง เนย หรือวิปครีม เข้ากันได้อย่างลงตัว วาฟเฟิลเป็นเมนูที่หารับประทานได้ง่ายทั้งที่ร้านคาเฟ่และร้านเบเกอรี่ทั่วไป

วิธีการทำเมนูอาหารเช้าวาฟเฟิล

  • ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ ผงฟู และเกลือ ใส่ลงในชามผสม
  • ตีไข่ไก่และน้ำตาลทรายให้เข้ากันจนขึ้นฟู
  • ใส่นมสด น้ำมันพืช และกลิ่นวานิลลา คนให้เข้ากัน
  • ค่อยๆ ใส่แป้งลงไปทีละน้อย ตะล่อมให้เข้ากันจนแป้งเนียน
  • ทาเนยหรือน้ำมันพืชบางๆ ลงในเครื่องทำวาฟเฟิล
  • เทแป้งวาฟเฟิลลงไปจนเต็มร่องเครื่อง
  • อบวาฟเฟิลประมาณ 2-3 นาที หรือจนสุกเหลือง
  • นำวาฟเฟิลออกจากเครื่อง พักให้เย็น
  • รับประทานวาฟเฟิลตามชอบ เช่น ราดซอสช็อกโกแลต ซอสสตรอว์เบอร์รี ราดนมข้นหวาน หรือใส่ไอศกรีม

ส่วนประกอบการทำแป้งวาฟเฟิลกรอบนอกนุ่มใน

  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 250 กรัม
  • น้ำตาลทราย 100 กรัม
  • ผงฟู 2 ช้อนชา
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา
  • นมสดรสจืด 380 กรัม
  • ไข่ไก่ (เบอร์ 2) 3 ฟอง
  • น้ำมันพืช (หรือเนยละลาย) 100 กรัม
  • กลิ่นวานิลลา 2 ช้อนชา

เมนูที่ 10 บราวนี่ เมนูขนมเค้กขึ้นชื่อของคาเฟ่ทุกที่

บราวนี่ เป็น เมนูขนมหวานยอดนิยม เค้กเนื้อแน่น ชุ่มฉ่ำ ราดด้วยซอสช็อกโกแลต เข้ากันได้อย่างลงตัว บราวนี่เป็นเมนูที่หารับประทานได้ง่ายทั้งที่ ร้านคาเฟ่ และ ร้านเบเกอรี่ ทั่วไป

วิธีการทำเมนูขนมเค้กบราวนี่

  • วอร์มเตาอบที่ 180 องศาเซลเซียส ใช้ถาด 8×8 นิ้ว ทาเนยและปูกระดาษไขเตรียมรอไว้
  • ละลายดาร์กช็อกโกแลต เนย และผงโกโก้ พักไว้ให้พออุ่นไม่ต้องถึงกับเย็น
  • นำแป้งและผงฟูคนให้เข้ากัน แล้วพักไว้ (สูตรนี้ไม่ต้องร่อนแป้ง)
  • ตีไข่ไก่และน้ำตาลทรายให้เข้ากันจนขึ้นฟู ใส่ดาร์กช็อกโกแลตที่ละลายแล้วลงไป ตีให้เข้ากัน
  • ใส่แป้งที่ร่อนไว้ลงไป ตะล่อมให้เข้ากัน ใส่กลิ่นวนิลาลงไป คนให้เข้ากันอีกครั้ง
  • เทส่วนผสมลงในถาดที่เตรียมไว้ เคาะพิมพ์กับโต๊ะเบาๆ เพื่อไล่ฟองอากาศ
  • นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 25-30 นาที สังเกตว่าหน้าบราวนี่เริ่มสุกแล้วจึงนำออกจากเตาอบ
  • นำบราวนี่ออกจากเตาอบ พักให้เย็นจนเซ็ตตัวดีก่อนตัดแบ่งรับประทาน

ส่วนประกอบของบราวนี่เค้ก

  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 100 กรัม
  • ผงฟู 1/4 ช้อนชา
  • ดาร์กช็อกโกแลต 100 กรัม
  • ไข่ไก่ เบอร์ 12 ฟอง
  • น้ำตาลทราย 180 กรัม
  • เนยเค็ม 85 กรัม
  • ผงโกโก้ 30 กรัม
  • กลิ่นวนิลา 2 ช้อนช

สรุป 10อันดับคาเฟ่ ในแต่ละที่นั้นมี เมนูอาหาร ที่หลากหลายให้คุณเลือกเพื่อสนุกไปกับความอร่อยและความหลากหลายที่ไม่มีวันน่าเบื่อ! ด้วยรสชาติที่อร่อยและวิธีการทำที่ไม่ซับซ้อน เรามั่นใจว่าคุณจะพบเมนูที่คุณชื่นชอบในร้านคาเฟ่ที่คุณไปเยือน

Powered By : Coolcafereview

#10อันดับคาเฟ่ #Top10cafeMenus #10อันดับอาหารในคาเฟ่ #รีวิวอาหารในคาเฟ #อาหารในคาเฟ่ #รีวิวคาเฟ่ #reviewcafe #cafe #cafethailand #คาเฟ่ #คาเฟ่น่านั่ง #คาเฟ่ใกล้ฉัน #คาเฟ่ยอดฮิต #คาเฟ่ประจำจังหวัด